ประวัติความเป็นมาจังหวัดบุรีรัมย์ปัจจุบัน
จังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่ ๑๐,๓๒๒.๘๘๕ ตารางกิโลเมตร เป็นลำดับที่ ๑๗ ของประเทศ เป็นลำดับที่ ๗ ของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับที่ ๑ ของประเทศคือ จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ ๒๐,๔๙๓,๙๖๔ ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากรของจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ มี ๑,๕๓๖,๐๗๐ คน เป็นอันดับที่ ๖ ของประเทศไทย และเป็นลำดับที่ ๔ ของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อันดับที่ ๑ คือ จังหวัดนครราชสีมา จำนวนประชากร ๒,๕๕๓,๘๙๔ คน) |
การปกครองส่วนภูมิภาค จังหวัดบุรีรัมย์มี ๒๓ อำเภอ มีอำเภอในปกครองมากเป็นอันดับที่ ๕ ของประเทศ (เท่ากับจังหวัด นครศรีธรรมราช) และเป็นอันดับที่ ๔ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำดับที่ ๑ ของประเทศคือ จังหวัดนครราชสีมามี ๓๒ อำเภอ (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และแบ่งการปกครองออกเป็นเขต ไม่ได้เรียกชื่อว่าเป็นอำเภอ) จังหวัดบุรีรัมย์ครั้งแรกได้แบ่งการปกครองออกเป็น ๔ อำเภอ ต่อมาได้มีการตั้งอำเภอเพิ่มขึ้นอีก ๑ อำเภอ คือ อำเภอลำปลายมาศ โดยทางกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศให้โอนหมู่บ้านบางหมู่บ้านของตำบลในเขตอำเภอพิมาย (เขตอำเภอชุมพวง ปัจจุบัน) จังหวัดนครราชสีมา โอนบางตำบลจากอำเภอนางรอง และโอนบางตำบลจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ มาตั้งเป็นกิ่งอำเภอลำปลายมาศ และเป็นอำเภอตามลำดับจึงมีอำเภอ รวม ๕ อำเภอ หากจะเปรียบว่าอำเภอเหล่านี้เป็น “อำเภอแม่” ก็คงไม่ผิด ดังนี้ ๑. อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ๒. อำเภอนางรอง ๓. อำเภอประโคนชัย ๔. อำเภอพุทไธสง ๕. อำเภอลำปลายมาศ |
ทั้ง ๕ อำเภอนี้ได้แบ่งการปกครองแยกออกเป็นกิ่งอำเภอ แล้วยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอตามลำดับ ในปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์มี ๒๓ อำเภอ ที่เพิ่มขึ้นมา ๑๘ อำเภอนั้น แยกจากอำเภอต่างๆ ดังนี้
|
๑. อำเภอสตึก แยกจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ๒. อำเภอคูเมือง แยกจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์และอำเภอสตึก ๓. อำเภอกระสัง แยกจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ๔.อำเภอห้วยราช แยกจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ๕.อำเภอบ้านด่าน แยกจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ๖. อำเภอละหานทราย แยกจากอำเภอนางรอง ๗. อำเภอหนองกี่ แยกจากอำเภอนางรอง ๘. อำเภอชำนิ แยกจากอำเภอนางรอง ๙. อำเภอโนนสุวรรณ แยกจากอำเภอนางรอง ๑๐ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ แยกจากอำเภอนางรองและอำเภอละหานทราย ๑๑. อำเภอบ้านกรวด แยกจากอำเภอประโคนชัย ๑๒.อำเภอพลับพลาชัย แยกจากอำเภอประโคนชัย ๑๓. อำเภอนาโพธิ์ แยกจากอำเภอพุทไธสง ๑๔. อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ แยกจากอำเภอพุทไธสง ๑๕. อำเภอหนองหงส์ แยกจากอำเภอลำปลายมาศ ๑๖. อำเภอแคนดง แยกจากอำเภอสตึก ๑๗. อำเภอปะคำ แยกจากอำเภอละหานทราย ๑๘. อำเภอโนนดินแดง แยกจากอำเภอละหานทราย |
มีอำเภอที่แยกออกจากอำเภอแม่แล้ว แต่พื้นที่ยังกว้างและห่างไกลไม่สะดวกในการดูแลทุกข์สุขของราษฎร และเมื่อราษฎรมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับทางอำเภอก็ไปมาลำบากเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากได้รับความเดือดร้อน จึงได้แยกตั้งเป็นกิ่งอำเภอและอำเภอตามลำดับมีอยู่ ๒ อำเภอ คือ อำเภอสตึก แบ่งพื้นที่ออกไปตั้งเป็นอำเภอแคนดง (ลำดับที่ ๑๖) และอำเภอละหานทราย แบ่งพื้นที่ออกไปตั้งเป็นอำเภอปะคำ กับอำเภอโนนดินแดง (ลำดับที่ ๑๗ และ ๑๘) "บุรีรัมย์" คือดินแดนภูเขาไฟเมืองไทยที่เป็นแหล่งรวมอารยธรรมขอมโบราณ จึงมีความสำคัญในฐานะแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้รับสมญานามว่า "ดินแดนปราสาทหิน" อันมากมายไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม (ดูเพิ่มเติมได้ที่ จังหวัดบุรีรัมย์) อ๊ะ ๆ และนอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้วจังหวัดบุรีรัมย์มีอะไรเที่ยวบ้างล่ะ ? เอาเป็นว่าลองไปหาคำตอบกันจากบันทึกการเดินทางของ คุณสมาชิกหมายเลข 2413228 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เจ้าของพื้นที่ที่วันนี้กลายมาเป็นไกด์จำเป็นพาเราไปซอกแซกตามสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์กันค่ะ ![]() แม้วันนี้จังหวัดบุรีรัมย์จะเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ผมก็ยังได้รับคำถามเดิม ๆ แบบนี้จากเพื่อนอีกหลายคน วันนี้ผมเลยมีความคิดที่จะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วน (ขอย้ำว่าบางส่วน) ของบุรีรัมย์ให้ทุกคนได้รู้จัก บังเอิ๊ญ...บังเอิญผมมีโอกาสที่จะต้องต้อนรับเพื่อนที่อยู่ ๆ ก็อยากจะมาเที่ยวบ้านเกิดของผมซะอย่างนั้น ก็เลยถือโอกาสมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวคร่าว ๆ ให้ทุกคนได้ทราบเลยแล้วกันครับ ภารกิจแรกที่ผมได้รับจากไอ้คุณเพื่อน คือการไปรอรับมันที่สถานีรถไฟ ตอน 06.02 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ "S h i p หาย" สำหรับผมมากๆ ตอนแรกผมก็บ่นมันไปว่า "เมิงหางานมาให้กูแท้ ๆ นี่วันหยุดกูเลยนะ" แต่เอาวะ...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ได้โอกาสโชว์ของดีจังหวัดซะเลย ว่าจังหวัดที่ถูกขนานนามว่า "เซราะกราว" (ภาษาเขมร = บ้านนอก) ก็มีดีเหมือนกัน ผมตื่นเช้ามารอรับมันตามนัดครับ ถึงสถานี 6 โมงเป๊ะ แต่พอมาถึงนายสถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งประเทศไทยที่จะนำพาแขกระดับ VIP (ย่อมาจาก Very Innocent Person) ก็ได้ประกาศเสียงตามสายมาว่าขบวนรถของเพื่อนผมจะมาถึงที่หมายช้ากว่ากำหนด 28 นาที ตามเวลาในประเทศไทย อืม...เซ็งเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรถ่ายรูปรอก็แล้วกัน |
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559
ประวัติจังหวัดบุรีรัมย์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ6/10
ตอบลบ